13 ก่อนที่สุดท้าย ‘สิงห์บลู’ จะหันไปคว้าตัว เชสก์ ฟาเบรกาส มาบัญชาเกมแดนกลางแทนในปีถัดมา ก็ดูเหมือน มูรินโญ่ มองออกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานใน แสตมฟอร์ด บริดจ์ รอบที่ 2 นะครับว่า “เชลซี ชุดนี้กำลังขาดอะไรอยู่?” และคงมีนักเตะไม่กี่รายที่จะแทนที่นักเตะระดับท็อปอย่าง สไนจ์เดอร์ ได้

อันดับที่ 3: ราฟาเอล วาราน (Raphaël Varane)

ต้นสังกัดเดิม: ล็องส์

ทีมของมูรินโญ่: เรอัล มาดริด

ซีซั่นเฉิดฉาย: 2014-2021

ความสำเร็จโดดเด่น: แชมป์โลก, แชมป์สโมสรโลก, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ,  แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก, แชมป์ลาลีกา, แชมป์ซูเปอร์โคปา, แชมป์โคปา เดล เรย์

หากคุณเก่งพอ มูรินโญ่ ก็พร้อมให้โอกาสคุณ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร…

คนที่ให้คำตอบนี้ดีที่สุดคงจะเป็น ราฟาเอล วาราน ในวัย 19 ปี ที่ต้องระหกระเหินย้ายมาประเทศสเปน ค้าแข้งกับทีมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เรอัล มาดริด

แม้ว่าเขาจะทุ่มเทและพยายามเป็นมืออาชีพแค่ไหน แต่ก็ยังไม่สามารถจับจุดที่ใช่ในการพัฒนาตนเอง จนกระทั่ง น้ามู ส่งลงเป็นตัวจริงในเกมบิ๊กแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ วาราน ยอมรับว่า เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับเด็กอย่างเขา และผลสรุปมันก็ออกมาดีเกินคาด

อย่างที่ทราบกันดี ราฟาเอล วาราน กลายเป็นหนึ่งในกองหลังระดับคุณภาพตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่คนที่ปลุกปั้นและให้โอกาสเด็กหนุ่มในวันนั้นคือ โจเซ่ มูรินโญ่ ชายที่ขึ้นชื่อเป็นเจ้าตำรับเกมรับของวงการลูกหนัง มันคือการค้นพบที่ดีที่สุดของ ‘ราชันชุดขาว’ เมื่อเด็กหนุ่มคนนี้สามารถทำให้ เปเป้ ตำนานแนวรับฝอยทอง ต้องถอยไปนั่งก้นด้านอยู่ข้างสนาม 

ในปี 2013 วาราน ได้รับผลโหวตจากแฟนบอลให้เป็น “11 ผู้เล่นต่างชาติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เรอัล มาดริด โดย Marca” เด็กที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมได้แค่ 2 ปี กลับทำให้แฟนบอลตราตรึงใจได้มากขนาดนี้

อันดับที่ 2: ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (Didier Drogba)

ต้นสังกัดเดิม: โอลิมปิก มาร์กเซย์

ทีมของมูรินโญ่: เชลซี

ซีซั่นเฉิดฉาย: 2006-2010

ความสำเร็จโดดเด่น: แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก, แชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก, แชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมป์เอฟเอ คัพ, แชมป์ลีกคัพ, แชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์, ติดทีมยอดเยี่ยม 14 รายการ, ดาวยิงสูงสุด 5 รายการ, หอเกียรติยศ พรีเมียร์ลีก

โจเซ่ มูรินโญ่ เลือกจิ้มให้ โรมัน อับราโมวิช ซื้อเขาในปี 2004 แทนที่จะเป็น โรนัลดินโญ่ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก ณ ช่วงเวลานั้น แค่นี้ก็ตอบได้แล้วล่ะว่า มูรินโญ่ มองการณ์ไกลมากขนาดไหน

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา คือ กองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เชลซี อย่างไม่ต้องสงสัย เขาอาจไม่ใช่นักเตะประเภทเพชฌฆาตที่ยิงได้เป็นกอบเปนกำ แต่สิ่งที่หัวหอกชาวไอวอรี่ โคสต์ มีไม่เหมือนใครคือ ความเป็น ‘Big Player’

จะแปลตรงตัวก็เข้าเค้าเหมือนกัน เพราะพี่แกพกส่วนสูง 189 เซ็นติเมตร ลงสนามมาด้วย ซึ่งเทคนิคการบังบอลและการเล่นเกมกลางอากาศที่โดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยกองหน้าทั่วไปนี้ ทำให้เขามักสร้างปัญหาให้กับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟระดับท็อปได้เสมอ เพราะฉะนั้น การเผชิญหน้ากับเขาจะไม่ใช่แค่เสียบบอลให้เด็ดขาดเป็นพอ แต่คุณต้องใช้ทั้งพละกำลัง จิตวิทยา และเทคนิคในการเอาตัวรอด

ดร็อกบา เฉิดฉายเสมอในเกมใหญ่ เขาเป็นนักเตะที่ชื่นชอบแรงกดดัน และอยากแสดงความเป็นผู้นำออกมาทั้งในและนอกสนาม เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แฟนบอลและนักเตะด้วยกันหลายคน ยกย่องให้เขาเป็นนักเตะแอฟริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

อันดับที่ 1: ลูก้า โมดริช (Luka Modric)

ต้นสังกัดเดิม: ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส

ทีมของมูรินโญ่: เรอัล มาดริด

ซีซั่นเฉิดฉาย: 2015-2018

ความสำเร็จโดดเด่น: บัลลงดอร์ (2018), แชมป์สโมสรโลก, แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ,  แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก, แชมป์ลาลีกา, แชมป์ซูเปอร์โคปา, แชมป์โคปา เดล เรย์, ติดทีมยอดเยี่ยม 21 รายการ, ติดทีมยอดเยี่ยม FIFPRO 5 สมัย, นักเตะยอดเยี่ยมของประเทศโครเอเชีย 11 สมัย,

จากชายที่ถูกยกให้เป็น “การเซ็นสัญญาที่ห่วยแตกที่สุดประจำซีซั่น” สู่ “การคว้าบัลลงดอร์ 2018” เพื่อสิ้นสุดยุคสมัย ‘โด้-เมส’

ลูก้า โมดริช ตกเป็นข่าวมากมายกับยักษ์ใหญ่ยุโรป อาทิ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วในความเขี้ยวลากดิน ยอมหักไม่ยอมงอ และไม่มีทางที่จะปล่อยอัญมณีในมือไปให้กับทีมคู่แข่ง ทำให้ โมดริช ต้องขึ้น BTS ไปลงสถานีกระทิงดุ

โมดริช ได้รับโอกาสมากถึง 53 นัด ภายใต้การคุมทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ แม้ว่าจะขัดใจแฟนบอลอยู่ไม่น้อย แต่เขายังคงเดินหน้าพิสูจน์ตัวเอง ยืนระยะเป็นแกนหลักให้กับ ‘ราชันชุดขาว’ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่กุนซือ เขาปฏิบัติเคร่งครัดตามคำสั่งของ คาร์โล อันเชล็อตติ และ ซีเนอดีน ซีดาน ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เสกสรรค์แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 6 สมัย พร้อมติดทีมยอดเยี่ยมยุโรปอีก 5 สมัย

จนถึงปัจจุบัน ลูก้า โมดริช ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ไม่ใช่แค่เพียงในยุคสมัยที่เขาเล่นเพียงอย่างเดียว และพวกเราอาจลืมไปว่า คนที่นำเข้าวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมชิ้นนี้มาสู่ ซานติโก เบอร์นาเบว คือ โจเซ่ มูรินโญ่ นี่เอง

และนี่คือ TOP 10: สายตาสุดเฉียบคมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ในตลาดนักเตะ ไว้เราพบกันใหม่กับ 10 อันดับที่น่าสนใจในตอนหน้าครับ

เขียนโดย The Lite Team

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง